Growth Mindset กับการเรียนรู้

Growth Mindset กับการเรียนรู้

     Growth Mindset คือ ความเชื่อที่ว่าสิ่งที่เรามีหรือเป็น เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการพัฒนาตนเอง เราสามารถพัฒนาโดยให้ความสำคัญกับความท้าทาย ความพยายามและการเรียนรู้ค่ะ

     Growth Mindset จึงเป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหากเรายังคงยึดติดกับการทำอะไรแบบเดิมๆ และไม่เรียนรู้เพิ่มเติม จะทำให้ปรับตัวไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ ในแง่การทำงานในองค์กรก็เช่นกันค่ะ ด้วยการปรับตัวขององค์กร องค์กรมีความคาดหวังให้บุคลากรมีความสามารถที่มากขึ้น สามารถทำงานได้หลากหลายและรับผิดชอบต่อปริมาณงานที่มากขึ้น หากบุคลากรมีความพร้อมต่อการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าตนเองสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ ก็จะสนุกกับการทำงานที่ท้าทายขึ้น และมองว่าเป็นการพัฒนาศักยภาพที่มีให้เพิ่มมากขึ้นค่ะ

     คุณสมบัติหนึ่งที่สำคัญของคนที่มี Growth Mindset คือ รักการเรียนรู้ค่ะ การที่ท่านผู้อ่านได้เจอและอ่านบทความนี้ ก็แสดงว่าท่านมีคุณสมบัติรักการเรียนรู้ และรักการพัฒนาตนเอง หรือพูดง่ายๆ ว่าท่านมี Growth Mindset ระดับหนึ่งเลยค่ะ :) เรามาดูกันค่ะว่านิสัยการเรียนรู้อะไรที่สำคัญ ระหว่างที่อ่าน ลองสังเกตดูนะคะว่าข้อไหนที่เรามีอยู่แล้ว และข้อไหนที่ยังไม่มี หรือมีน้อย และอยากฝึกเพิ่มค่ะ

นิสัยการเรียนรู้ที่สำคัญต่อ Growth Mindset

1. เรียนรู้ด้วยตนเอง 

คนที่มี Growth Mindset จะรักการเรียนรู้มาก เรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่ต้องมีใครมาบอกหรือสั่ง ก็จะหาหนทางในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ชอบและสนุกกับการเรียนรู้ด้วยค่ะ

2. เรียนรู้สิ่งใหม่อย่างสม่ำเสมอ 

สนใจที่จะเรียนรู้ความรู้ ทักษะ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงาน หรือวิถีชีวิตค่ะ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดๆ คือ ช่วง WFH หลายๆ คนก็ปรับตัวที่จะทำงานที่บ้าน และประชุมผ่านเทคโนโลยี เช่น Zoom, Microsoft team เป็นต้น หรือในแง่ของวิถีชีวิต การซื้อของก็เปลี่ยนจากการซื้อตามห้างสรรพสินค้า เป็นการสั่งซื้อแบบออนไลน์ คนที่มี Growth mindset ก็จะเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ (ลองใช้เลย) หรือศึกษาข้อมูลวิธีใช้ แล้วมาลองใช้ค่ะ ขณะที่หลายๆ คนก็ยังไม่เปิดใจที่จะเรียนรู้ และอดทนกับการทำแบบเดิมๆ ค่ะ

3. ใช้กระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและยืดหยุ่น

กระบวนการเรียนรู้มีหลากหลายมากๆ ขอแบ่งเป็นใหญ่ๆ 2 แบบค่ะ

 1) การเรียนรู้จากภายนอก (นอกตัวเรา) ปัจจุบันเราสามารถเรียนรู้และเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลายวิธีค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การอ่านหนังสือ, ดู youtube, ฟัง podcast/clubhouse, เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ, เข้าอบรมแบบเจอหน้า หรือออนไลน์ เป็นต้น เราสามารถเลือกวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเรา ทั้งด้านเวลา ความสะดวก และค่าใช้จ่ายได้ง่ายเลยค่ะ และสิ่งสำคัญ คือ เรียนรู้แล้วเอามาลองปรับใช้ดูค่ะ 

 2) เรียนรู้จากภายใน (ในตัวเรา) กระบวนการนี้ก็สำคัญมากๆ ไม่แพ้การเรียนรู้จากภายนอกเลยค่ะ คือ ทุกครั้งที่เราทำอะไรที่ยังเป็นสิ่งที่ใหม่ หรือท้าทายสำหรับเรา ลองตั้งคำถามกับตนเองดูนะคะ ว่าอะไรที่เราทำได้ดี และอะไรที่ยังไม่ดีหรืออยากพัฒนาเพิ่มขึ้นบ้าง และเราจะพัฒนาให้ดีขึ้นได้อย่างไร ตัวเราเองนี่แหละค่ะ ครูที่ดีที่สุด ที่อยู่กับเราตลอดเวลาค่ะ

4. แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลอื่น

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น หรือการคุยกับผู้อื่น ก็ช่วยให้เราได้มุมมองที่หลากหลายขึ้นค่ะ และแต่ละคนก็ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงในเรื่องนั้นๆ ที่แตกต่างกัน การแลกเปลี่ยน (ผลัดกันพูด ผลัดกันฟัง) ช่วยให้เราได้เรียนรู้ได้มากขึ้นจากผู้อื่น ลองทำดูนะคะ ข้อนี้ส่วนตัวชอบมากค่ะ หลายๆ ครั้งเราคุยกับเพื่อนที่สนใจเรื่องเดียวกัน ด้วยมุมมองที่หลากหลายก็ช่วยเติมเต็มมากขึ้นค่ะ

5. เรียนรู้จากความผิดพลาดและฟีดแบค

เราคงเคยได้ยินสำนวนว่า “ผิดเป็นครู” ใช่ไหมคะ แล้วเราคิดแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่านะคะ ถ้ายังรู้สึกไม่ดีอยู่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ให้บอกตัวเองว่าก็มันเป็นสิ่งใหม่นี่นา เลยยังไม่เก่ง และเราก็กล้าหาญมากที่ยอมเสี่ยง ยอมทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยค่ะ ดีกว่าไม่ขยับตัวทำอะไรเลยค่ะ ครั้งต่อไปก็ดีขึ้น เก่งขึ้นค่ะ

คำว่า “ผิดเป็นครู” คือ ทุกครั้งที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น เราก็ได้เรียนรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เกิดความผิดพลาด และที่สำเร็จเป็นอย่างไร อะไรที่ควรทำ อะไรที่ควรทำลดลง หรือเลิกทำ และที่สำคัญ คือ เมื่อเราทำอะไรผิดพลาด จะจำแม่นมาก และไม่ผิดซ้ำๆ ค่ะ

เช่นกันค่ะ ฟีดแบคจากคนอื่นก็ ช่วยให้เราได้เรียนรู้เพิ่มว่าตรงไหนที่ควรปรับปรุง บางครั้งเราเองอาจเห็นตัวเองไม่รอบด้าน หรือถ้าเปรียบกับกระจก เราอาจยังเป็นกระจกที่ไม่ใสปิ๊งที่จะเห็นตัวเองครบทุกด้านค่ะ (กระจกอาจส่องเห็นแค่ครึ่งตัวบน เพราะกระจกมันสั้น ส่องไม่ถึงส่วนขาก็ได้นะคะ) และเมื่อเราฝึกฝนเรื่องนั้นๆ มากขึ้น เก่งขึ้น ฟีดแบคก็จะลดลงเองค่ะ ไม่มีทางลัดนะคะ ^^

6.เรียนรู้ตลอดชีวิต

หากเราเห็นว่ามีความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ผุดขึ้นตลอดเวลาและเราสนุกกับการเรียนรู้ ก็สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ไม่ได้คิดว่าเป็นงานหรือภาระที่ต้องทำค่ะ 

6 ข้อนี้ อ่านแล้วลองให้คะแนนดูนะคะ ถ้าคะแนนเต็ม 10 แต่ละข้อให้เท่าไร ข้อไหนเยอะสุด ข้อไหนน้อยสุด และอยากเริ่มฝึกข้อไหนก่อนนะคะ

อ.ก้อย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านเห็นว่าเราเองสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ และสนุกกับการเรียนรู้นะคะ^^

ด้วยรักค่ะ :)